วิธีการดูแลรักษา และการใช้งานที่ถูกต้องของเฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้

sweethouse

1. ควรจัดวงเฟอร์นิเจอร์ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ปราศจากแมลง เช่น มด ปลวก มอด
2. เมื่อเฟอร์นิเจอร์เปียกน้ำควรรีบเช็ดให้แห้งทันที
3. ควรทำความสะอาดด้วยแปรงปัดฝุ่น ผ้านุ่มแห้งเช็ดเบาๆหากเกิดคราบสกปรกให้ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำพอหมาด เช็ดทำความสะอาดแล้วตามด้วยผ้านุ่มแห้งเช็ดให้แห้งอีกครั้ง
ข้อควรระวัง

1. ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่แสงแดดแรง ความชื้นสูง ใกล้ห้องน้ำ หรือใต้แอร์
2. ไม่ควรนำวัสดุร้อนหรือเย็นจัด วางลงเฟอร์นิเจอร์ โดยไม่มีวัสดุรองรับและหลีกเลี่ยงการขูดขีดจากปากกาและของมีคม
3. ไม่ควรนำวัสดุที่แข็งหรือหยาบ,ผ้าเปียก, น้ำยาหรือสารเคมีมาเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์
4. ไม่ควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากจนเกินไปลงบนเฟอร์นิเจอร์
5. เมื่อต้องขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรใช้วิธีลากหรือผลัก

วิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ดีได้แก่

1.หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ อย่าให้เฟอร์นิเจอร์เปียกหรือสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นนานๆเด็ดขาด เพราะความชื้นจะทำให้เนื้อไม้สึกกร่อนง่ายและเสื่อมลงเร็วกว่าเดิม แต่ถ้าจะไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ไม้เปียกน้ำเลยเด็ดขาดคงเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะโต๊ะอาหาร วิธีการดูแลเบื้องต้นเมื่อเฟอร์นิเจอร์ไม้เปียกน้ำคือ ถ้ามีน้ำหยดให้เอาผ้าหรือกระดาษซับน้ำหนาๆซับเท่านั้น ไม่ควรขัดถู หรือถ้าจะถูก็ควรใช้ผ้าชุบน้ำมันการบูรถูก็ได้ หรืออาจใช้น้ำยาสำหรับเช็ดเนื้อไม้ที่มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ถ้าเป็นรอยน้ำตาเทียนให้ขูดเทียนออก ระวังอย่าขูดเลยไปถึงเนื้อไม้ หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าชุบหัวน้ำมันเช็ดและตามด้วยน้ำยาขัดเงาเช็ดจนสะอาด ถ้าเปื้อนจากสีหกใส่ก็ใช้น้ำมันขัดเงาเช็ดออกได้เช่นกัน ถ้าสีแห้งไปแล้วก็ใช้น้ำมันสนทาให้อ่อนตัวแล้วตามด้วยน้ำมันขัดเงา

2.หลีกเลี่ยงความร้อน ร่องรอยที่เกิดจากความร้อนให้ใช่น้ำมันขัดเงาถูออก แล้วใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดถูเฟอร์นิเจอร์ไม้จนคราบออกหมด แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ไหม้ไฟรุนแรงล่ะก็คงไม่มีวิธีใดช่วยได้ อีกอย่างหนึ่งเฟอร์นิเจอร์เนื้อไม้เป็นเชื้อเพลิงที่ดี จึงไม่ควรติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เนื้อไม้ไว้ใกล้กับบริเวณที่เกิดเปลวไฟได้ง่ายเช่น เตาแก๊ส เป็นต้น

3.ระวังรอยขีดข่วน รอยขีดข่วนนั้นแม้จะสร้างความเสียหายในด้านความคงทนของเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ไม่มาก แต่ก็มีผลทางด้านความสวยงามได้เช่นกัน และเรามักสังเกตเห็นว่ารอยขีดข่วนนั้นเป็นแหล่งที่คราบสกปรกชอบไปฝังแน่นอยู่ รอยขีดข่วนมักเกิดจากการที่เราพลาดนำของมีคมไปเสียดสีเข้า หรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน รอยขีดข่วนบางๆใช้น้ำมันขัดเงาชุบผ้าถูออก รอยก็จะหายไปได้ หรืออาจจะหาสีลายไม้ทาทับรอยลงไปให้เนียนๆก็ได้

4.สารเคมีอื่นๆ เช่น ยาทาแผล แอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ สารเคมีที่เป็นกรดด่างต่างๆที่กัดกร่อนได้ จากที่กล่าวมาเป็นเพียงวิธีส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์เนื้อไม่เท่านั้น ยังมีวิธีกลเม็ดเคล็ดลับอีกมากมาย แต่ร้อยพันวิธีแก้ไขก็ไม่เท่ากับการดูแลป้องกันเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเรา ซึ่งการป้องกันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ถ้าทำตามข้อระมัดระวังดังกล่าวไปแล้วข้างต้นก็ช่วยได้กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนน้ำมันขัดเงานั้นจะเห็นได้ว่าสามารถแก้ไขได้สารพัดรอย เราจึงควรไปหาซื้อมาติดบ้านไว้สำหรับดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สวยงามของเรานะคะ

การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก

หากเกิดรอยคราบเป็นวงที่เฟอร์นิเจอร์ไม้สักให้ใช้กระดาษซับแบบหนาวางทับเหนือรอยคราบเท่านั้น จากนั้นใช้เตารีดที่มีไฟปานกลางนาบซ้ำกันหลายๆ หน จนกว่ารอยนั้นจะหายไป หรือจะใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำมันการบูรถูก็ได้ หากมีรอยหยดของน้ำตาเทียนที่เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ซึ่งแม้จะขูดเทียนออกไปแล้วยังมีรอยอยู่ให้ใช้ผ้าชุบหัวน้ำมันเช็ดถู และขัดซ้ำด้วยน้ำยาชักเงา เช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้งรอยที่เกิดจากความร้อน ให้ใช้หัวน้ำมันถู แล้วซับให้สะอาดด้วยผ้าแห้งซ้ำๆ กันหลายๆ หนคราบก็จะค่อยๆ หายไป หากเกิดรอยขีดข่วนที่เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงาถู รอยขีดก็จะหายไปคราบเปื้อนจากสี ถ้าสียังไม่แห้งก็แก้ไขเหมือนรอยขีดข่วน แต่ถ้าแห้งแล้วให้ใช้น้ำมันสนชโลมบริเวณคราบนั้นจนกว่าคราบสีจะอ่อนตัวและหลุดไป จากนั้นใช้น้ำมันชักเงาถูให้สะอาด ทั้งนี้การดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้สักต้องอาศัยความพิถีพิถันในการเอาใจใส่ หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดและคอยตรวจสอบความผิดปกติหรือรอยคราบต่างๆ ในทันที เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขให้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักของคุณสามารถใช้งานได้ตามปกติ มีความสวยงามคงทนคู่บ้านของคุณอย่างคุ้มค่า